ไอบีเอ็มมุ่งเป้าแรนซัมแวร์และภัยไซเบอร์ ส่ง Flash Storage รุ่นใหม่ช่วยองค์กรรับมือ-เร่งกู้ข้อมูล
ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) เปิดตัว IBM FlashSystem Cyber Vault เพื่อช่วยองค์กรตรวจจั บแรนซัมแวร์และการโจมตี ทางไซเบอร์รูปแบบต่างๆ พร้อมกู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ วหลังการถูกโจมตี พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตั วสตอเรจ FlashSystem โมเดลใหม่ บนพื้นฐานของ IBM Spectrum Virtualize ที่สร้างสภาพแวดล้ อมสำหรับการดำเนินงานแบบหนึ่ งเดียวและมีการทำงานอย่างคงที่ สม่ำเสมอ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความยื ดหยุ่นฟื้นตัวเร็วและประสิทธิ ภาพการทำงานของแอพพลิเคชั นภายใต้สภาพแวดล้อมแบบไฮบริ ดคลาวด์
จากผลการศึกษา IBM Cyber Resilient Organization 46% ของกลุ่มที่ สำรวจระบุว่าเคยถูกโจมตีด้ วยแรนซัมแวร์ในช่วงสองปีที่ผ่ านมา1 โดยการโจมตีทางไซเบอร์ที่ เติบโตต่อเนื่อง และระยะเวลาเฉลี่ยในการกู้คื นระบบที่นานหลายวันหรือบางครั้ งหลายสัปดาห์2 ทำให้คาดเดาไม่ ได้ว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกั บธุรกิจและชื่อเสียงองค์กรนั้ นจะมากแค่ไหน แม้ว่าองค์กรจะมีกลยุทธ์ในการป้ องกันและตรวจจับอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องพร้อมที่จะกู้คื นระบบปฏิบัติการในเวลาอันสั้ นเพื่อลดการสูญเสียของธุรกิ จและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ตอบโจทย์ความจำเป็นด้าน Cyber Resiliency
IBM FlashSystem Cyber Vault ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่ วยยกระดับความสามารถในการกู้คื นระบบหลังจากที่ถูกโจมตี และลดเวลาโดยรวมในการกู้คื นระบบลง3 โดยระบบจะมอนิเตอร์ข้ อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อเร่งการฟื้นระบบในจุดที่ ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าเรียกคื นข้อมูลได้ ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถกู้คื นสำเนาข้อมูลทั้งหมดได้เร็วขึ้ น
“วันนี้องค์กรอยู่ท่ามกลางภัยคุ กคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกั บการคาดการณ์และเตรียมพร้อมต่ อการโจมตีทางไซเบอร์ นอกเหนือจากการพยายามเพิ่ มความคล่องตัวทางธุรกิ จในการดำเนินงานในแต่ละวัน” นาย เดนิส เคนเนลลี กรรมการผู้จัดการของ IBM Storage กล่าวว่า “IBM FlashSystem Cyber Vault และสตอเรจ FlashSystem ที่ ก้าวล้ำที่สุดของเราได้รั บการออกแบบมาโดยเฉพาะให้ ตอบโจทย์ด้านประสิทธิ ภาพและความปลอดภัยในระดับที่ จำเป็นสำหรับองค์กรที่ใช้ไฮบริ ดคลาวด์”
ในสถานการณ์ท้าทายด้ านความปลอดภัยในปัจจุบัน องค์กรต่างมองหาแนวทางที่ ครอบคลุมเพื่อสร้างความยืดหยุ่ นฟื้นตัวไวในการต่อกรกับภั ยไซเบอร์ ด้วยโซลูชันที่ทั้งสามารถป้องกั นการโจมตี รวมถึงช่วยกู้ข้อมูลหลังถู กโจมตีได้ด้วย โซลูชัน IBM FlashSystem Cyber Vault จึงเป็นส่วนเสริมให้กับ IBM Safeguarded Copy ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ IBM FlashSystem โดย FlashSystem Cyber Vault จะสามารถสแกนสำเนาข้อมู ลที่ถูกสร้างขึ้นโดย Safeguarded Copy ได้โดยอัตโนมัติ เพื่อค้นหาสัญญาณความเสี ยหายของข้อมูลที่เกิดจากมัลแวร์ หรือแรนซัมแวร์ การสแกนนี้มีวัตถุประสงค์ สองประการ หนึ่งคือสามารถช่วยระบุการโจมตี โดยแรนซัมแวร์แบบคลาสสิกได้อย่ างรวดเร็วเมื่อเริ่มมีการโจมตี เกิดขึ้น และสองคือได้รับการออกแบบมาเพื่ อช่วยระบุว่าสำเนาข้อมูลชุดใดที่ ไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี เหล่านี้จะช่วยให้องค์ กรรสามารถตรวจพบได้อย่างรวดเร็ วว่ามีการโจมตีเกิดขึ้น และกู้คืนสำเนาข้อมูลที่สมบูรณ์ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
“เห็นได้ชัดว่า Cyber Resilience เป็นเรื่องที่มี ความสำคัญสูงสุดสำหรับลูกค้ าของเรา” นายเดวิด แชนเซลเลอร์ ผู้อำนวยการ Enterprise Systems ของ Gulf Business Machinesซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุ รกิจของไอบีเอ็ม กล่าว “ลูกค้าของเรากำลังมองหาวิธี ในการเตรียมตัวที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้พร้อมสำหรับการโจมตี ทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น และ IBM Cyber Vault ก็เป็นตัวเลือกในอุดมคติ เพราะผลิตภัณฑ์นี้ไม่เพียงแต่ ได้รับการออกแบบมาให้เสริมศั กยภาพของFlashSystem ได้อย่ างอย่างง่ายดาย แต่ยังสามารถช่วยลดเวลาการฟื้ นระบบ และนี่คือสิ่งที่ทีมงานด้าน Cyber Resilience ต่างต้ องการเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่ อไปได้”
IBM FlashSystem สมรรถนะสูงที่รองรั บกลุ่มผลิตภัณฑ์ Multi-Engine ขนาดใหญ่ และติดสปีดให้กับโครงการไฮบริ ดคลาวด์
IBM FlashSystem มอบประสิทธิ ภาพและความจุที่สเกลเพิ่มได้ (1PBe ต่อแร็ค) จึงตอบสนองความต้องการด้ านสมรรถนะสำหรับเวิร์ คโหลดการปฏิบัติงานที่สำคั ญโดยไม่กระทบต่อเป้าหมายด้ านประสิทธิภาพ IBM FlashSystem ได้รั บการออกแบบบนสถาปัตยกรรมหนึ่ งเดียวที่มีสภาพแวดล้ อมการทำงานร่วมกัน จึงเป็นแพลตฟอร์มสตอเรจแบบไฮบริ ดคลาวด์ในแบบ edge-to-core-to- cloud ให้กับลูกค้าได้
ตอบโจทย์ความต้องการด้านประสิ ทธิภาพของเวิร์คโหลดที่มีกรอบด้ านเวลา
การใช้ตัวควบคุมมัลติคอร์ และสถาปัตยกรรมสตอเรจเชิ งคำนวณของพอร์ตโฟลิโอ IBM FlashSystem เป็นการก้าวข้ามขี ดจำกัดของปริมาณงานที่เครื่ องคอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้ ในช่วงเวลาหนึ่ง (throughput) และเวลาแฝง พร้อมกับมอบความยืดหยุ่นฟื้นตั วไวระดับองค์กรสำหรับเวิร์ คโหลดการปฏิบัติงานที่สำคัญ
- ลดข้อจำกัดด้านทรัพยากรของดาต้
าเซ็นเตอร์ด้วยการผนวกรวมเวิร์ คโหลด: Flash System 9500 สร้างขึ้นมาสำหรับองค์กรที่ กำลังเติบโตซึ่งต้ องการความสามารถและความยืดหยุ่ นสูงสุด พร้อมนำเสนอประสิทธิภาพสูงสุ ดสองเท่า4 รวมถึงการเชื่อมต่อ แฟลชไดรฟ์ NVMe และแคชของFlashSystem 9200 ที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 50% (3TB) โดยรองรับความจุที่มี ประสิทธิภาพสูงสุด 4.5PB ต่อตู้ ควบคุมหนึ่งตู้5,6 - ย้ายไปยังไฮบริดคลาวด์อย่างมีวั
ตถุประสงค์: เมื่อใช้ IBM’s Spectrum Virtualize และ Spectrum Virtualize for Public Cloud ลูกค้าจะได้รับประโยชน์ จากสภาพแวดล้อมการดำเนิ นงานของสตอเรจของไอบีเอ็ม ที่มีชุดบริการข้อมู ลและความสามารถในการปฏิบัติ งานที่สอดคล้องกันด้ วยโมเดลการใช้งานที่เหมื อนคลาวด์ ที่เอ็ดจ์ของดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งในระบบขององค์กรเอง และบนแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะ นอกจากนี้ลูกค้ายั งสามารถนำสตอเรจแบบเลกาซีดั้ งเดิมจากเวนเดอร์รายอื่นมาใช้ ใหม่ โดยเวอร์ชวลไลซ์หลัง SAN Volume Controller ของไอบีเอ็ม เพื่อขยายบริการข้อมู ลและการดำเนินงานเดียวกันไปยั งระบบไอทีที่ได้ลงทุนไว้แล้ว - รักษาประสิทธิภาพของดาต้าเซ็
นเตอร์: ธุรกิจในวันนี้กำลั งเผชิญกับแรงกดดันที่บีบให้ต้ องออโตเมทส่วนงานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยสภาพแวดล้อมการทำงานหนึ่งเดี ยวของ IBM Spectrum Virtualize ที่สตอเรจ IBM Flash System ใช้เป็นรากฐานนั้น สามารถช่วยทำให้การดำเนินงานง่ ายขึ้น และทำให้การจัดการข้อมูลเป็ นไปแบบอัตโนมัติ
การสนับสนุนทางเทคนิคที่ง่ ายและเป็นมาตรฐาน
IBM Storage Expert Care นำเสนอบริการที่ยืดหยุ่ นและปรับเป็นพิเศษสำหรับการบำรุ งรักษาIBM Flash System โดยลูกค้าสามารถเลื อกระดับ Basic, Advanced หรือ Premium ณ ตอนที่ซื้อ IBM Flash System 7300 หรือ 9500 ซึ่งจะช่วยลดปั ญหาจากช่วงเวลาที่ไม่มี กระแสไฟฟ้าและขณะเดียวกันก็ปรั บโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้ เหมาะสม ช่วยให้เจ้าหน้าที่ไอทีหันไปมุ่ งเน้นที่ภารกิจสำคัญอื่นๆ ได้แทน