ESRI ชูสุดยอด 3 โซลูชันด้าน GIS รับปี 2022 ช่วยธุรกิจเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ลุยต่อยอดนวัตกรรมรับกระแสโลกเสมือนจริง กับเทคโนโลยี Location Intelligence
บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ จากความเชี่ยวชาญในการพัฒนา ArcGIS ซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก เผยเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญจากนี้ GIS หรือ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการดำเนินกิจการ เตรียมส่งโซลูชันเด่น
3 ด้าน เจาะกลุ่มตลาดการค้า (Commercial Market) เพื่อธุรกิจรีเทล ธุรกิจเดลิเวอรี และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้าน Location Analytics and Data Science การวิเคราะห์แผนที่และวิทยาการข้อมูลด้วย Machine Learning รวมทั้งด้านพัฒนาเมืองอัจฉริยะ Smart City ด้วย Digital Twins ยกระดับการวิเคราะห์จากข้อมูล Data ทั่วไปสู่ Location Intelligence เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมลุยต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Location Intelligence ร่วมกับพาร์ทเนอร์
นางสาวธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Market Analysis Report ได้รายงานตลาดของ Location Intelligence ทั่วโลกในปี 2570 จะมีมูลค่า 29,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ คาดจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ถึง 15.2% ในช่วงปี 2563 – 2570 เนื่องจากในยุคดิจิทัลที่ข้อมูล (Data) มีความสำคัญอย่างมาก และยิ่งทวีความสำคัญเมื่อถูกแรงกระตุ้นจากสถานการณ์โควิด – 19 ทำให้ทุกองค์กรต้องปรับตัว เร่งนำ Digital technology มาใช้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มี Data เกิดขึ้นทุกวันอย่างมหาศาล สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำ Data มาวิเคราะห์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็น Data intelligence เพื่อช่วยในการตัดสินใจและคาดการณ์ในอนาคตได้ ซึ่งข้อมูล Location นับเป็นหนึ่ง Data ที่มาเพิ่มคุณค่าในการสร้างมิติมุมมองที่แตกต่างและยกระดับการวิเคราะห์สู่ Location intelligence ที่เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจและบริหารจัดการธุรกิจให้ครอบคลุมมิติอันหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะ GIS หรือ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวนี้ ทั้งนี้ แนวโน้มเทรนด์จากนี้พบว่า GIS จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการดำเนินกิจการเพื่อก้าวสู่ความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 นี้ ESRI เตรียมส่งโซลูชัน 3 ด้าน เจาะกลุ่มด้านตลาดการค้า (Commercial Market) เพื่อธุรกิจรีเทล ธุรกิจเดลิเวอรี่ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเจาะกลุ่มด้าน Location Analytics and Data Science การวิเคราะห์แผนที่และวิทยาการข้อมูลด้วย Machine Learning รวมทั้งด้านพัฒนาเมืองอัจฉริยะ Smart City ด้วย Digital Twins ดังนี้
1. ด้านตลาดการค้า (Commercial) โซลูชันการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ ด้วยการนําข้อมูล เชิงตําแหน่งและพื้นที่มาใช้ในการวิเคราะห์ และนําเสนอมุมมองใหม่ ๆ ไปสู่การตัดสิน ใจทางกลยุทธ์ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจรีเทล ธุรกิจเดลิเวอรี่ ที่ปัจจุบันมีตลาด Cloud Kitchen ที่สูงขึ้น รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในด้านของการทำ Site Selection และ Target Marketing เพื่อหา Location ที่เหมาะสมที่สุด โดยการใช้งานถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด ก็สามารถทำงานได้ทันที นอกจากนี้ยังพร้อมด้วยข้อมูลประชากร (Demographic Data) และข้อมูลสถานที่สำคัญ (POIs) แบบพร้อมใช้งานที่เป็นส่วนสำคัญในการวิเคราะห์
2. ด้าน Location Analytics and Data Science ด้วยเทคโนโลยี Machine Learning เพื่อเพิ่มความแม่นยําในการระบุคุณลักษณะและสร้างโมเดลการจดจําคุณลักษณะของวัตถุบนภาพ สามารถแปลงข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศหรือภาพถ่ายดาวเทียมออกมาเป็นรูปแบบดิจิทัลได้โดยไม่ต้องใช้คน ทําให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น และการวิเคราะห์ Raster Change Detection อัตโนมัติ ด้วยโปรแกรมที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของภาพถ่ายเพื่อดูความแตกต่างของพื้นที่ในแต่ละช่วงเวลา สามารถระบุพื้นที่ที่มีการพัฒนาเมืองหรือมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
3. ด้านการพัฒนาเมืองไปสู่ความเป็น Smart City ด้วย Digital Twins หรือโลกเสมือน ซึ่ง GIS มีบทบาทสำคัญในการสร้างข้อมูลจาก Real world ไปสู่รูปแบบ Digital ที่จะเป็นข้อมูลตั้งต้นในการใช้เป็นแบบจำลองในการวิเคราะห์คาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ และเพื่อประยุกต์ส่วนอื่น ๆ นอกจากนี้ GIS ยังนำมาใช้ในด้าน Smart city operations เพื่อช่วยวางแผนและบริหารจัดการด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องการเห็นข้อมูลแบบ Real-time ทันต่อเหตุการณ์ เช่น งานการจัดการภัยพิบัติต่าง ๆ และงานติดตามสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 และระบบติดตามสถานการณ์นํ้าท่วมในพื้นที่ เป็นต้น ไปจนถึงการสร้าง Hub ในการสื่อสารของเมือง ที่เอื้อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนต่าง ๆ ของเมืองได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม นอกจากแผนการพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ ในปี 2565 นี้ ESRI ยังได้มีแผนลุยต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีร่วมกับพาร์ทเนอร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Location Intelligence เพื่อเป้าหมายในการสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ตลอดจนยกระดับสู่การเป็น Location intelligence โดยเชื่อมั่นว่า Location Intelligence จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนทุกธุรกิจให้ก้าวต่อได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ นางสาวธนพร กล่าวทิ้งท้าย