สเตรตัส ชู Edge Computing ปฏิวัติธุรกิจไทย
เทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านเอดจ์ คอมพิวติ้ง (Edge Computing) ของ สเตรตัส เทคโนโลยีส์ พร้อมช่วยองค์กรธุรกิจของไทยในหลายภาคส่วนให้สามารถเปลี่ยนแปลงไปสู่ความสามารถทางธุรกิจ ด้านการผลิต และประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยผลักดันไทยแลนด์ 4.0 ในแผนแม่บทอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศ ทั้งนี้จากความสามารถในการประมวลผลระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมของสเตรตัส เทคโนโลยีส์ กำลังปฏิวัติวิธีใช้ประโยชน์จากไอโอที การวิเคราะห์ และเอไอเพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่ดีและรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มยานยนต์ สุขภาพ และหุ่นยนต์
“เอดจ์ คอมพิวติ้ง (Edge Computing) จะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเป้าหมายของอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทย เพราะสถานการณ์แบบเรียลไทม์และข้อมูลที่เกิดขี้นจากอุปกรณ์ทางกายภาพหรือเซ็นเซอร์ในโลกแห่งความเป็นจริงสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ได้เกือบเรียลไทม์โดยใช้การประมวลผลแบบโลคัลไลซ์และใช้ทรัพยากรในการประมวลผลที่ใช้พลังงานต่ำบนขอบของเครือข่าย(Edge of the Network) ” นายลิน โฮ ฟุง กรรมการผู้จัดการ บรษัท สเตรตัส เทคโนโลยีส์ ประจำภูมิภาค เอเชียใต้ กล่าว และว่า “จากการวิจัยของการ์ทเนอร์คาดว่าประเทศไทยจะมีการใช้จ่ายในด้านคลาวด์เติบโตมากถึง 28.2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากองค์กรธุรกิจนำเอดจ์ คอมพิวติ้งและเวอร์ชวลไลเซชั่นมาใช้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนบริษัทต่างๆ ที่เริ่มดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สเตรตัส พร้อมที่จะช่วยให้บริษัทไทยได้เปรียบในการแข่งขัน อยู่ในระดับแนวหน้าของเทคโนโลยีและให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมของตน”
สเตรตัส เทคโนโลยีส์ ช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมของตนด้วยบริการที่หลากหลายที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ โดยให้การเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งที่มาและแอปพลิเคชันจำนวนมากในแบบเรียลไทม์และตามความต้องการ จากการที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล พวกเขาต้องมองข้ามศูนย์ข้อมูลและไปที่คลาวด์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสำคัญ เนื่องจากข้อมูลต้องเดินทางผ่านเครือข่ายต่างๆ ทั่วประเทศ
“เอดจ์ คอมพิวติ้ง ได้จัดการกับข้อจำกัดของโมเดลคลาวด์ คอมพิวติ้งโดยแจกจ่ายทรัพยากรไปยังอุปกรณ์ระยะไกลที่ใช้กระบวนการและแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงความท้าทายด้านความห่างไกลและศูนย์ข้อมูลแบบรวมศูนย์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง” นายซีเวียร์ โก๊ะ ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำอาเซียน ตอนเหนือ บริษัท สเตรตัส เทคโนโลยีส์ กล่าวและว่า “แพลตฟอร์มซีโร-ทัช ซีทีซี เอดจ์ คอมพิวติ้ง (Zero-touch ztC Edge Computing) ของ สเตรตัส ได้รับการออกแบบให้ติดตั้ง ปรับใช้ และจัดการได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษ นอกจากนี้ ระบบของเราสามารถบรรเทาภัยคุกคามทาง ไซเบอร์และซ่อมแซมตัวเองได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะเหล่านี้ สเตรตัส ทำให้อุตสาหกรรม 4.0 เป็นเรื่องที่ราคาจับต้องได้และทางเทคนิคก็ทำได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานที่ตั้งทางกายภาพ และหากมีการติดตั้งระบบนี้จำนวนมากพอสามารถทำให้เศรษฐกิจของไทยสามารถบรรลุไทยแลนด์ 4.0 อย่างแน่นอน”
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งไม่ใช่แค่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่และครอบคลุมมากขึ้นเท่านั้น โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นได้เช่นกัน ด้วยแพลตฟอร์ม ztC Edge Computing Stratus ได้จัดเตรียมวิธีการสำหรับองค์กรในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วโดยการใช้โซลูชั่นเอดจ์ คอมพิวติ้ง เพื่อสร้างรากฐาน(Foundation)ใหม่สำหรับไอทีสมัยใหม่ในประเทศไทย วิธีนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นโซลูชันที่ช่วยประหยัดต้นทุนซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านไอที
แพลตฟอร์ม ztC Edge Computing ช่วยให้ธุรกิจของไทยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้แพลตฟอร์มราคาไม่แพง เรียบง่าย ปลอดภัย เป็นระบบอัตโนมัติ และปรับขนาดได้ บริษัทต่างๆ สามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าลูกค้าและผู้บริโภคโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ของตนอย่างไร ทันต่อความเคลื่อนไหวของตลาด และเข้าใจตลาดได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจล้ำหน้ากว่าใคร .