November 24, 2024

องค์กรในอาเซียนกับการก้าวสู่อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์

เมื่อเร็วๆ นี้ที่ประเทศฟิลิปปินส์ SAP ได้เปิดตัวลูกค้าระดับองค์กรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เริ่มต้นพลิกโฉมองค์กรเป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ (Intelligent Enterprise) ปัจจุบันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลขยายตัว อย่างไรก็ตามแต่ละประเทศกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่แตกต่างกัน รวมถึงต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านต่างๆ สำหรับการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ (digital maturity)

พูดคุยบนเวที

ด้วยประสบการณ์กว่า 45 ปี และความชำนาญใน 25 อุตสาหกรรม เอสเอพี พร้อมที่จะสนับสนุนให้ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและพลิกโฉมธุรกิจของพวกเขาให้เป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์

“ระบบนิเวศน์ด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และองค์กรต่างๆ มีความพร้อมที่จะเป็นองค์กรดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีที่องค์กรต่างๆ จะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” เคลาส์ แอนเดอร์เซ่น ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ ของ เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว “ตลอดระยะเวลา 29 ปีที่ผ่านมา เอสเอพี ได้ช่วยสนับสนุนองค์กรมากกว่า 10,000 องค์กร ในการใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อพัฒนาองค์กร และวันนี้เรายังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมของเราในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเราสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างมั่นใจและมีเป้าหมายที่ชัดเจน เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรต่างๆ เลือกเอสเอพีเป็นพันธมิตรที่พวกเขาไว้วางใจในการพัฒนาองค์กรให้เป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์”

อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ คือ องค์กรที่ดำเนินงานด้วยความสามารถในการมองเห็น (visibility) มีจุดโฟกัส (focus) และความคล่องตัว (agility) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม องค์กรเหล่านี้ นอกจากที่จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการที่เพิ่มความสามารถในการทำงานให้พนักงานด้วยการทำให้ขั้นตอนต่างๆ ในการทำงานเป็นแบบอัตโนมัติ (process automation) แล้ว ยังสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าจากความสามารถในการตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าได้ในแบบเชิงรุก ที่สำคัญองค์กรเหล่านี้สามารถคิดค้นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่และสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ๆ ได้

บริษัท ทันด่วย ดิสทิลเลอร์ อิงค์ (Tanduay Distillers, Inc.) บริษัทเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติที่ตั้งอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ได้เริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจของตนด้วย SAP S / 4HANA

บริษัท เจจี ซัมมิท (JG Summit) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของชาวฟิลิปปินส์รายใหญ่ที่สุดและมีธุรกิจหลากหลายมากที่สุด เมื่อเร็วๆ นี้ได้ประกาศใช้ SAP S / 4HANA เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่การเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจดิจิทัลในฟิลิปปินส์ โดยมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการกระตุ้นให้องค์กรขยายการเติบโตจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วในเครือในประเทศและทั่วภูมิภาค

ขณะเดียวกันในประเทศสิงคโปร์ บริษัท คราวด์ฟาร์มเอ็กซ์ (CrowdFarmX) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ทำสหกรณ์การเกษตรบนบล็อคเชน วางแผนที่จะใช้ SAP S / 4HANA Public Cloud เพื่อเร่งความเร็วในการเพิ่มเกษตรกรกว่า 10 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเข้าไปบนแพลตฟอร์มในอีก 22 ปีข้างหน้า

บริษัท โกลบ เทเลคอม (Globe Telecom) ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำในฟิลิปปินส์ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ลงนามข้อตกลงกับเอสเอพีเป็นระยะเวลาสามปี สำหรับการใช้แพลตฟอร์มธุรกิจ (business suite platform) และโซลูชั่นบริการ (service solutions) โดยวางเป้าในการทำให้กระบวนการทางการเงินเป็นดิจิทัล ทำให้สามารถตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ และสนับสนุนสภาพแวดล้อมในองค์กรได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น

บริษัท บอดี้ ช็อป อินโดนีเซีย (Body Shop Indonesia) กำลังใช้ SAP SuccessFactors เพื่อปรับกระบวนการในการทำงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลและพนักงานให้เป็นระบบดิจิทัล ในขณะที่ บริษัท มิตซุยแอนด์โค (Mitsui & Co. , Ltd.) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทการค้าการลงทุนและบริการที่มีความหลากหลายและครบวงจรที่สุดในโลก กำลังสร้างมาตรฐานขององค์กรในการจัดการการเดินทางและค่าใช้จ่ายขององค์กรผ่านทาง SAP Concur