หัวเว่ยเปิดบริการ Huawei Cloud Thailand คลาวด์สาธารณะรายแรกในไทย
หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัวบริการคลาวด์สาธารณะ ในประเทศไทย ในงานแถลงข่าวพิธีเปิด “หัวเว่ย คลาวด์ ไทยแลนด์” ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ช่วงเดียวกับงาน “Digital Thailand Big Bang 2018” โดยมี ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มร. เจิ้ง เย่หลาย ประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจคลาวด์ของหัวเว่ย มร. เจมส์ อู๋ ประธานบริหาร หัวเว่ย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมร. โซเล่อร์ ซุน หัวหน้ากลุ่มธุรกิจคลาวด์ ของหัวเว่ยประเทศไทย ร่วมงาน
หัวเว่ยได้รับมอบใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจบริการคลาวด์ในประเทศไทยจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ทำให้หัวเว่ยเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกรายแรกที่เปิดให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย พร้อมด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และรองรับการเข้าถึงเครือข่ายทั่วโลก
มร. เจิ้ง เย่หลาย ประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจคลาวด์ของหัวเว่ย กล่าวว่า “การเปิดตัวบริการคลาวด์ของหัวเว่ยในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญของเรา หัวเว่ยเชื่อมั่นว่า การเปิดศูนย์ข้อมูลใหม่นี้จะช่วยขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 โดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในด้านการประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) บิ๊กดาต้า (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) การนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มของเรามาใช้จะช่วยให้บริษัททุกขนาดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขยายธุรกิจออกไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หัวเว่ยจะพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวไกลต่อไป ด้วยการแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไอซีทีที่บ่มเพาะมากว่าสามทศวรรษ ด้วยการสนับสนุนจากฝ่ายเทคนิคระดับมืออาชีพในไทย หัวเว่ยคลาวด์พร้อมที่จะมอบบริการระดับโลกชั้นยอดที่น่าเชื่อถือแก่ลูกค้าในประเทศไทย”
ในงาน Huawei Cloud Thailand หัวเว่ยได้แนะนำเทคโนโลยีคลาวด์ต่าง ๆ มากมาย เช่น การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) การจดจำข้อมูลภาพ (Image Recognition) และเทคโนโลยี AI และยังได้มีการสาธิตกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จหลายโครงการ อาทิเช่น หนึ่งในการนำเสนอของหัวเว่ย คลาวด์ ให้เห็นถึงรูปแบบการทำงานของคลาวด์แพลตฟอร์มที่ช่วยหน่วยงานท้องถิ่นบริหารระบบสัญญาณไฟจราจรตามแยกต่างๆ โดยมีมาตรการที่สามารถควบคุมความแออัดของการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซลูชั่นบริหารจัดการสามารถควบคุมการตั้งเวลาสัญญาณไฟจราจรได้อย่างชาญฉลาด มีการทำงานประสานกัน จึงช่วยลดปัญหาการจราจรบนท้องถนนได้อย่างมาก
หัวเว่ย มุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะแบบเปิดและสร้างสรรค์ รวมทั้งแพลตฟอร์ม AI คุณภาพเยี่ยมในราคาที่ซื้อหาได้ เรายังทุ่มเทที่จะให้บริการคลาวด์ที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ ปลอดภัย และอัพเกรดอยู่เสมอแก่ลูกค้าทั่วโลก ทั้งนี้ หัวเว่ยได้ส่งมอบเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มคลาวด์ต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้ามากมาย อาทิ Peugeot SA (PSA), ธนาคาร Banco Santander และองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (CERN)
ระบบนิเวศแบบเปิดของหัวเว่ยประกอบไปด้วยบริษัทพันธมิตรกว่า 6,000 ราย ที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย คลาวด์ เพื่อจัดหาโซลูชั่นแบบครบวงจร ตั้งแต่ชิพประมวลผล การให้บริการฮาร์ดแวร์บนคลาวด์ (Infrastructure as a Service – IaaS) ไปจนถึงบริการแพลตฟอร์มบนคลาวด์ (Platform as a Service – PaaS) และแอพพลิเคชั่นเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม
ในปี พ.ศ. 2562 คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะมีการใช้บริการคลาวด์มากกว่าการใช้เทคโนโลยีไอทีแบบเดิม และในปี พ.ศ. 2564 เฉพาะในประเทศไทย มีการประเมินว่าบริการคลาวด์ รวมถึงฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ที่ทำงานบนระบบคลาวด์จะมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 48,000 ล้านบาท ตามข้อมูลในรายงานของ IDC
หัวเว่ย คลาวด์ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรในไทย เช่น Stream IT, CallVoice และ BeTimes ในการสร้างแอพพลิเคชั่นสำหรับลูกค้าองค์กรแบบเบ็ดเสร็จ ที่มุ่งเน้นให้บริการแก่ภาครัฐ การดูแลรักษาทางการแพทย์ อีคอมเมิร์ซ และอื่นๆ
มร. เจมส์ อู๋ ประธานบริหาร หัวเว่ย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวในงานเปิดตัวบริการคลาวด์ว่า “หัวเว่ยเชื่อว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำเสนอบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศไทย อันแสดงถึงความมุ่งมั่นในพันธกิจของเราที่มีต่อการทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายตามนโยบาย Thailand 4.0 บริการคลาวด์ของเราสามารถช่วยให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เร่งผลักดันนวัตกรรมและเพิ่มความปลอดภัย และด้วยเครือข่ายคลาวด์ของเราที่มีอยู่ทั่วโลก ทั้งในยุโรป ละตินอเมริกา รัสเซีย แอฟริกาใต้ และจีน ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงองค์กรธุรกิจต่างๆ เข้าสู่ตลาดโลก เราจะยังคงนำเสนอเทคโนโลยีคลาวด์ล่าสุด โดยใช้ทรัพยากรดาต้าเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการค้า พร้อมพันธมิตรอีกมากมาย หัวเว่ย คลาวด์ มีความพร้อมที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีได้อย่างมาก และขยายธุรกิจของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว”
จากประสบการณ์ด้านโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีที่ยาวนานถึง 30 ปี บวกกับประสบการณ์ด้านการค้นคว้าวิจัยด้านการประมวลผลแบบคลาวด์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยจึงสามารถจัดหาโซลูชั่นที่ครบวงจรให้แก่องค์กรทุกขนาด เพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและคลาวด์ พร้อมช่วยให้องค์กรเหล่านี้ขยายธุรกิจของตนได้ต่อไป