ดาร์วินบอกซ์ ประกาศแต่งตั้ง “ภาณุวัฒน์ เบ็ญเราะมาน” อดีตผู้บริหารไมเนอร์ กรุ๊ป เอออนและคินเซนทริค ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย
ดาร์วินบอกซ์ (Darwinbox) หนึ่งในยูนิคอร์นด้านเทคโนโลยีทรัพยากรบุคคลที่เติบโตเร็วที่สุด ประกาศแต่งตั้ง นายภาณุวัฒน์ เบ็ญเราะมาน (เบน) เป็นกรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารสูงสุดประจำประเทศไทย ภาณุวัฒน์ เป็นสมาชิกคนล่าสุดในทีมผู้บริหารระดับภูมิภาคที่กำลังเติบโตของดาร์วินบอกซ์ และจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานเพื่อรองรับการขยายตัวด้านเทคโนโลยีด้านทรัพยากรบุคคลที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลด้านทรัพยากรบุคคลกำลังทวีความสำคัญในประเทศไทย ดาร์วินบอกซ์ต้องการนำเสนอโซลูชันการจัดการทรัพยากรมนุษย์แบบครบวงจรแก่องค์กร โดยดำเนินงานร่วมกับลูกค้าในภูมิภาค เพื่อช่วยให้เส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลด้านทรัพยากรบุคคลของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ในขณะเดียวกันดาร์วินบอกซ์ กำลังต้องการขยายธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของภาณุวัฒน์และทีมงานประเทศไทย
ภาณุวัฒน์ มีประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในการเป็นผู้บริหารในธุรกิจ โดยเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ ไมเนอร์ ฟู้ด และไมเนอร์ ไลฟสไตล์ มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านบุคลากรและเป็นผู้นำในการจัดการการเปลี่ยนแปลงสำหรับองค์กร นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาและผู้บริหารสูงสุดที่ บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอออน ฮิววิท (ประเทศไทย) และ บริษัท ฮิววิท (ประเทศไทย) จำกัด ภาณุวัฒน์เป็นที่ยอมรับเป็นอย่างดีในทักษะด้านการวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอย่างสมเหตุสมผล ภาณุวัฒน์เป็นผู้บริหารที่เชื่อมั่นในประสบการณ์ของผู้คน การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และมีส่วนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้กับลูกค้า ทั้งยังขับเคลื่อนความก้าวหน้า เพิ่มความผูกพันของพนักงาน และพัฒนาศักยภาพบุคลากร ตลอดจนพัฒนากระบวนการในการจัดหาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจ
เจยันต์ พาเลติ ผู้ร่วมก่อตั้ง ดาร์วินบอกซ์ กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้านทรัพยากรบุคคล ‘จากเอเชียสู่ธุรกิจระดับโลก’ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญสำหรับเราเป็นอย่างยิ่ง ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเติบโตแบบทวีคูณ เนื่องจากความต้องการในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และการทำงานนอกสถานที่ ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้องค์กรจำเป็นต้องเริ่มต้นการเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลด้านทรัพยากรบุคคล สิ่งที่ประเทศไทยต้องการ คือ แพลตฟอร์มระดับโลก และผู้คนที่เข้าใจความแตกต่างอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ”
อรุณ ธากา รองประธานฝ่ายขาย – เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ของดาร์วินบอกซ์ กล่าวเสริมว่า “ประสบการณ์อันยาวนานของภาณุวัฒน์ในภูมิภาคนี้ รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล ความเข้าใจในความต้องการพนักงานและองค์กร และมุมมองที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทเราเป็นอย่างดี ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะที่มองไปยังอนาคต ทำให้เขาเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับดาร์วินบอกซ์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ภาณุวัฒน์มาร่วมขับเคลื่อนแผนการขยายธุรกิจ ที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานของเราต่อไป”
ภาณุวัฒน์ เบ็ญเราะมาน กล่าวถึงการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า “เรื่องราวการเติบโตของดาร์วินบอกซ์ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผลมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์ บุคลากร และกระบวนการดำเนินงานที่ตอบสนองต่อความต้องการของภูมิภาค ประเทศไทยมีการเติบโตในด้านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ โดยเฉพาะด้านบริหารทรัพยากรบุคคลเนื่องจากทั้งพนักงานและนายจ้างต่างมองหาประสบการณ์การทำงานที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ผมมีความตื่นเต้นที่จะเข้ามีส่วนสนับสนุน ความสำเร็จด้านเทคโนโลยีของลูกค้า และการเติบโตของดาร์วินบอกซ์ต่อไปในประเทศไทย เราต้องร่วมกันสร้างทีมงานอันแข็งแกร่ง โดยเน้นการทำงานที่ให้ลูกค้าและพนักงานเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนับเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลด้านทรัพยากรบุคคลสำหรับองค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ”
ดาร์วินบอกซ์ ขับเคลื่อนองค์กรระดับโลกกว่า 750 แห่ง พร้อมฐานผู้ใช้งานมากกว่า 2 ล้านคนในกว่า 100ประเทศ เช่น Bitkub, Ampacet, Cars 24 และ K-HA Group ในประเทศไทย และแบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น Indorama, JG Summit, Adani-Wilmar, Tokopedia, AXA, Bupa, Cigna, Nivea, Sephora, Starbucks, Dominos เป็นต้น
ในช่วงต้นปีนี้ Darwinbox สร้างความสำเร็จอีกขั้นด้วยการระดมทุน 72 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก้าวกระโดดไปสู่การประเมินมูลค่าระดับยูนิคอร์น นำโดย Technology Crossover Ventures (TCV) พร้อมด้วยการร่วมลงทุนจาก SCB 10X และนักลงทุนชั้นนำระดับโลกที่มีอยู่รายอื่นๆ ประกอบด้วย Salesforce Ventures, Sequoia India, Lightspeed India, 3One4Capital และ JGDev ในรอบ Series D บริษัทมีมูลค่ารวมของมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ