AspenTech เผยซอฟต์แวร์ V14 ใหม่รุกสร้างความยั่งยืน รองรับความคิดริเริ่มสำหรับความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติงาน

 แอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์ (Aspen Technology, Inc. (NASDAQ: AZPN) บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์เชิงอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกประกาศ เปิดตัวซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ล่าสุด aspenONE® V14 พัฒนาให้มีความฉลาดและสามารถให้คำแนะนำขั้นสูงซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการยกระดับการตัดสินใจที่ถูกต้องมากขึ้น จึงช่วยส่งเสริมความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานขององค์กรและโรงงานให้สูงยิ่งขึ้น มาพร้อมกับโมเดลแบบจำลองตัวอย่างมากกว่า 100 แบบ จึงช่วยให้ลูกค้าสามารถเร่งโครงการด้านความยั่งยืน และจัดการการปล่อยก็าซเรือนกระจกโดยตรงและทางอ้อม (Scope 1 and Scope 2 emissions) สู่บรรยากาศให้น้อยลงมากที่สุดตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้

เดวิด อาร์บิเทล รองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของแอสเพ็นเทคกล่าวว่า “องค์กรต่างๆ ล้วนเร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและสร้างความยั่งยืน ลูกค้าของเรายืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายสองประการ คือ ต้องตอบสนองต่อความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และต้องบรรลุเป้าหมายด้านความอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน  ทั้งนี้ คุณสมบัติใหม่ในซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้เน้นช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวสู่ความยั่งยืนและความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานเพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

เร่งความก้าวหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero

AspenONE V14 มีโมเดลแบบจำลองเพื่อความยั่งยืนในซอฟต์แวร์มากกว่า 100 โมเดล ออกแบบขึ้นมาเพื่อให้องค์กรเร่งก้าวสู่ Net Zero ได้เร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงเป้าหมายการบริหารการปล่อยก๊าซประเภทต่างๆ เศรษฐกิจไฮโดรเจน การดักจับก๊าซคาร์บอน การหมุนเวียนของวัสดุ การผลิตวัตถุดิบที่มาจากชีวภาพและด้านพลังงานหมุนเวียนที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดย V14 จะรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยอัตโนมัติจากหลายแหล่งเพื่อให้ลูกค้าสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนด และให้รายงานถึงความคืบหน้าในการลดคาร์บอน และช่วยให้ลูกค้าสามารถจำลองการปล่อยก๊าซต่างๆ เหล่านี้ในขั้นตอนการปฏิบัติงานได้อย่างรัดกุมมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรด้านความยั่งยืนสูงสุด    

ยกระดับสู่ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานที่แตกต่าง

AspenONE เวอร์ชันใหม่เน้นช่วยให้องค์กรมีการตัดสินใจด้านการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้พัฒนาคุณสมบัติใหม่สองรายการ อันได้แก่ – Aspen Virtual Advisor (AVA) สำหรับเทคโนโลยี DMC3 และ Aspen Unified Reconciliation and Accounting (AURA) – และเพิ่มการผสานหลอมรวมเบ็ดเสร็จระหว่างโซลูชันประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันมากขึ้น เพิ่มการทำงานใหม่ๆ จึงส่งให้ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้สามารถให้คำแนะนำที่สามารถนำไปลงมือปฏิบัติได้ทันที ให้ข้อมูลกรองที่ฉลาดอัจฉริยะมากขึ้นได้แบบเรียลไทม์ และจัดลำดับความสำคัญของความผิดปกติรวมถึงการแจ้งเตือนกรณีระบบหยุดทำงานได้ตามระดับของความรุนแรงและความเสี่ยงในการปฏิบัติงานที่ตั้งเอาไว้ นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่น V14 ยังลดปัญหาวัสดุเหลือทิ้งด้วยการคำนวณหาความสมดุลระหว่างมวลและปริมาตรที่มีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว และประเมินออปชั่นกำหนดการวางแผนหยุดการทำงานของระบบเพื่อการตัดสินใจได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและภาระผูกพันในการส่งมอบสินค้าน้อยที่สุด

มุมมองของนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม

“เวอร์ชัน V14 ของแอสเพ็นเทคนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อเร่งโครงการด้านความยั่งยืนของลูกค้า” ปีเตอร์ เรย์โนลส์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ ARC Advisory Group กล่าว “ซอฟต์แวร์เวอร์ชันนี้มีพัฒนาการที่เด่นชัดในด้านการผสานรวมของแผนงาน การบริหารกำหนดการ การคำนวณการผลิตและแผนการบำรุงรักษาระบบต่างๆ ทั้งหมดเข้าด้วยกันในเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น ส่งให้ลูกค้าสามารถทลายวิธีการทำงานแบบไซโลและดึงมูลค่าเพิ่มจากซอฟต์แวร์ได้เต็มที่มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น แอสเพ็นเทคกำลังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยการเพิ่มการวิเคราะห์เสมือนมนุษย์ (Cognitive analysis) ลงไปในแพลทฟอร์มปัญญาประเดิษฐ์อันโดดเด่นของตนเอง เพื่อจัดการกับปัญหาที่สะสมมานานด้วยการถ่ายทอดความรู้และการยอมรับของผู้ปฏิบัติงานในระบบต่างๆ ซึ่งรวมไปถึง การควบคุมกระบวนการขั้นสูง (Advanced Process Control) อีกด้วย”

ซอฟต์แวร์ aspenONE V14 รุ่นล่าสุดพร้อมให้ใช้งานแล้วในขณะนี้